“ยาแก้ไอเด็ก” เป็นหนึ่งในยาสามัญประจำบ้านที่ทุกครอบครัวต้องมีติดบ้านเอาไว้เสมอ เพราะอาการไอคืออาการเจ็บป่วยพื้นฐานที่เด็กทุกคนสามารถเป็นได้บ่อยครั้ง
ปัจจุบันมียาแก้ไอเด็กหลายยี่ห้อออกมาวางจำหน่าย แต่ด้วยความรวดเร็วของการบอกต่อกันผ่านโลกโซเชียล อาจทำให้ลูกๆ ของหลายครอบครัวได้กินยาเหมือนกัน ทั้งๆ ที่อาการของเด็กบางคนอาจต้องรักษาได้ด้วยยายี่ห้ออื่น
ดังนั้น ถ้าบ้านไหนให้ลูกกินยาแก้ไอเด็ก แล้วมี 5 สัญญาณนี้ตามมา แปลว่าถึงเวลาบอกยาลาเดิม แล้วซื้อยาใหม่ให้ลูกใช้ได้แล้ว
1. ลูกกินยาแก้ไอเด็กแล้วติดคอ
พ่อแม่บางครอบครัวอาจเคยชินกับการที่ตัวเองกินยาเม็ด เลยป้อนลูกด้วยยาแก้ไอเด็กแบบเม็ดด้วยเช่นกัน โดยลืมไปว่าลูกยังเป็นเด็กเล็กอยู่ที่หลอดอาหารยังไม่เติบโต และยังกลืนอาหาร หรือยาชิ้นใหญ่ได้ไม่ดี ทำให้เวลากินยาเม็ดเข้าไปแล้วเกิดอาการติดคอ
ซึ่งอาการนี้น่ากลัวกว่าที่คิด เพราะนอกจากจะทำให้เด็กทรมานแล้ว ยังทำให้เด็กหายใจลำบาก หรือถึงขั้นหมดสติได้ ทางที่ดีถ้าลูกยังเป็นเด็กเล็กอายุไม่เกิน 6 ปี ควรให้ลูกกินยาน้ำไปก่อน
2. ลูกกินยาแก้ไอเด็กแล้วบ้วนทิ้ง
บ้วนทิ้ง เป็นพฤติกรรมที่เจอได้บ่อยเวลาป้อนยาให้เด็ก เพราะยามีรสชาติขม ไม่อร่อยเหมือนตอนกินขนม หรือน้ำหวาน ดังนั้นถ้าอยากให้ลูกกินยาแก้ไอเด็กได้ดี แนะนำให้พ่อแม่เลือกซื้อยาน้ำเชื่อม ที่แต่งกลิ่นและรสชาติให้ใกล้เคียงสิ่งที่เด็กๆ ชอบ เช่น รสสตรอเบอรี่ รสผลไม้รวม เป็นต้น
3. ลูกกินยาแก้ไอเด็กแล้วคลื่นไส้ อาเจียน ผื่นขึ้น
ภายใน 30 นาทีถึง 1 ชั่วโมง หลังจากที่ให้ลูกกินยาแก้ไอเด็ก หากพบว่าลูกมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ให้คาดเดาไว้ก่อนว่านั่นคืออาการแพ้ยา พ่อแม่สามารถปฐมพยาบาลเบื้องต้นได้ด้วยการให้ลูกกินน้ำตามมากๆ เพื่อเจือจางฤทธิ์ยา และกระตุ้นให้ร่างกายขับยาออกมาทางเหงื่อ หรือปัสสาวะ
ถ้าดูแล้วว่าอาการน่าจะไม่รุนแรงไปกว่านี้ ก็ให้ลูกทานยาแก้แพ้เพิ่มเติมได้ แต่ถ้าอาการมีทีท่าว่าจะรุนแรงขึ้น จนยาแก้แพ้ระงับอาการไม่ได้ ให้รีบพาลูกไปพบแพทย์ทันที
4. ลูกกินยาแก้ไอเด็กแล้วหายใจลำบาก
ถ้าลูกกินยาแก้ไอเด็กแล้วไม่มีอาการติดคอ แต่หลังจากกินยาไปได้ไม่เกิน 1 ชั่วโมง มีอาการหายใจลำบาก หายใจไม่ออก นั่นคือสัญญาณของการแพ้ยาอย่างรุนแรง ให้พ่อแม่พาลูกไปพบแพทย์ทันที โดยหยิบบรรจุภัณฑ์ยาที่กินไปด้วย เพื่อให้แพทย์เลือกการรักษาที่เหมาะสมได้ทันเวลา
5. ลูกกินยาแก้ไอเด็กแล้วอาการไม่ดีขึ้น
อย่างไรก็ตาม พ่อแม่ควรระลึกไว้เสมอว่า ไม่ควรให้ลูกกินยาแก้ไอเด็กตัวเดิมติดต่อกันนานเกินไป เพราะอาจทำให้เกิดอาการดื้อยา จนรักษาไม่หาย หรือเกิดภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ ที่เป็นอันตรายต่อชีวิตได้
ดังนั้นถ้าลูกกินยาแก้ไอเด็กตัวเดิมติดต่อกันครบตามระยะที่ระบุในฉลากแล้ว และได้มีการลองเปลี่ยนยาแล้ว 1 ครั้ง แต่อาการไอยังไม่ดีขึ้น ควรให้ลูกหยุดกินยา และรีบพาไปพบแพทย์เพื่อหาทางรักษาต่อไป เพราะอาจเป็นไปได้ว่าร่างกายของลูกคุณกำลังต่อต้านตัวยาบางชนิด หรืออาการไอที่เป็นอยู่นั้น อาจไม่ใช่แค่เชื้อไข้หวัดธรรมดา ยาแก้ไอตามร้านขายยาทั่วไปจึงรักษาไม่หาย
“ยาแก้ไอเด็ก” ถ้าใช้ได้ถูกโรค ถูกอาการ และเหมาะสมกับตัวเด็ก ก็จะช่วยให้เด็กกลับมามีสุขภาพที่แข็งแรงเหมือนเดิมได้ แต่ถ้าให้ลูกฝืนใช้ยาที่ไม่เหมาะสมต่อไปเรื่อยๆ ยาก็อาจกลายเป็นพิษที่คร่าชีวิตลูก