ภาวะมีบุตรยาก เป็นภาวะที่คู่สามีภรรยามีเพศสัมพันธ์อย่างต่อเนื่องประมาณสัปดาห์ละ 3-4 ครั้งโดยไม่ได้คุมกำเนิด แต่ก็ยังไม่เกิดการตั้งครรภ์ขึ้น คู่สามีภรรยาที่อายุต่ำกว่า 35 ปีจะวินิจฉัยว่าเกิดภาวะมีบุตรยาก หากพยายามมีเพศสัมพันธ์อย่างต่อเนื่อง แต่ก็ยังไม่เกิดการตั้งครรภ์มา 1 ปีขึ้นไป ส่วนคู่สามีภรรยาที่ฝ่ายหญิงอายุมากกว่า 35 ปีจะนับที่ 6 เดือนนับตั้งแต่พยายามมีเพศสัมพันธ์อย่างสม่ำเสมอเพื่อมีบุตร ซึ่งในปัจจุบันมีนวัตกรรมการรักษาภาวะมีบุตรยากเริ่มพัฒนามากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้โอกาสการตั้งครรภ์ในคู่รักที่รักษาภาวะมีบุตรยากมีมากขึ้น วันนี้เรามาดูกันว่ามีวิธีไหนบ้าง
1. การใช้ยา
เป็นการให้ยากระตุ้นการตกไข่ กรณีที่ไข่ไม่ตก หรือหรือไข่ไม่สมบูรณ์พอจะปฏิสนธิได้ ยาสำหรับรักษาภาวะมีบุตรยากมักแบ่งเป็น 2 รูปแบบ คือ รูปแบบฉีด และรูปแบบกิน ส่วนยาที่แพทย์จ่ายให้อาจเป็นยาฮอร์โมน เช่น ยาฮอร์โมนโกนาโดโทรฟิน (Gonadotrophin)
2. การทำกิฟต์
Gamete Intra – Fallopian Transfer: GIFT เป็นการนำไข่และอสุจิที่สมบูรณ์แข็งแรงแล้วฉีดกลับเข้าไปในท่อนำไข่ผ่านการส่องกล้องเพื่อให้เกิดการปฏิสนธิตามธรรมชาติในรังไข่ จนเกิดการตั้งครรภ์
3. IVF (In Vitro Fertilization) การทำเด็กหลอดแก้ว
คือการฉีดยาเพื่อกระตุ้นรังไข่ แล้วเจาะดูดไข่ออกมาผสมกับอสุจิในงานทดลอง แล้วเลี้ยงจนเป็นตัวอ่อน (embryo culture) อายุ 3-5 วัน (ตัวอ่อนอายุ 5 วัน เรียก blastocyst) แล้วจึงย้ายตัวอ่อนเข้าสู่โพรงมดลูก (Embryo Transfer;ET)
4. ICSI (Intracytoplasmic Sperm Injection)
มีขั้นตอนเหมือน IVF แต่ต่างกันที่ขั้นตอนการปฏิสนธิ การทำ IVF จะใส่ sperm จำนวนหนึ่งลงในจานที่มีไข่ 1 วัน เพื่อให้เกิดการปฏิสนธิกันเอง ส่วน ICSI จะใช้กรณีที่ฝ่ายชายมีอสุจิน้อย Embryologist จะใช้อุปกรณ์จับ sperm 1 ตัว จิ้มเข้าไปในเซลล์ไข่โดยตรง เพื่อให้เกิดการปฏิสนธิขึ้น
5. Intra–Uterine Insemination: IUI
ในขั้นแรกแพทย์จะคัดเลือกน้ำเชื้อจากฝ่ายชายที่แข็งแรง มีการเคลื่อนไหวดี มีรูปร่างสมบูรณ์ที่สุด แล้วนำมาฉีดเข้าโพรงมดลูก หรือปากมดลูกของฝ่ายหญิงในช่วงตกไข่พอดี นอกจากนี้แพทย์ยังจะกำหนดปริมาณเชื้ออสุจิที่พอเหมาะ และช่วยให้มีโอกาสทำให้ตั้งครรภ์สูงก่อนฉีดอีกด้วย
6. Testicular Epididymal Sperm Extraction: TESE
เป็นขั้นตอนการรักษาภาวะมีบุตรยากสำหรับฝ่ายชาย โดยอาจเกิดจากการเป็นหมัน น้ำเชื้อไม่มีเซลล์อสุจิ หรือมีปัญหาด้านการหลั่งน้ำเชื้อ ลักษณะอัณฑะไม่สมบูรณ์ แพทย์จึงจะผ่าตัด หรือดูดเก็บชิ้นเนื้ออัณฑะไปหาตัวอสุจิต่อไป
7. Testicular Sperm Aspiration: TESA
เป็นอีกวิธีเจาะเก็บเชื้ออสุจิจากฝ่ายชายผ่านการใช้เข็มขนาดเล็กเจาะดูดเชื้ออสุจิออกมาจากอัณฑะของฝ่ายชาย และนำไปเก็บไว้เพื่อผสมกับไข่ด้วยวิธีอิ๊กซี่ต่อไป หรือหากไม่เก็บไว้สำหรับปฏิสนธิ ก็อาจเก็บเพื่อนำไปตรวจหาความผิดปกติภายในอัณฑะ
ใครที่มีภาวะมีบุตรยาก อยากได้คลินิกปรึกษามีบุตรยากที่น่าเชื่อถือ ต้องที่ IW Clinic ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญในการดูแลทางการแพทย์สำหรับสตรี พร้อมทั้งให้บริการรักษาภาวะมีบุตรยากด้วยนวัตกรรมที่ดีที่สุด