ASD Montreal Health,Medical ทำกายภาพบำบัดอาการปวดหลังส่วนล่าง ช่วยให้หายปวดหลังได้ถาวรหรือไม่

ทำกายภาพบำบัดอาการปวดหลังส่วนล่าง ช่วยให้หายปวดหลังได้ถาวรหรือไม่

กายภาพบำบัดอาการปวดหลังส่วนล่าง

              ทุกวันนี้คุณจะเห็นได้ว่าอาการปวดหลังไม่ใช่อาการของผู้สูงอายุอีกต่อไปแล้ว เพราะวัยรุ่นและวัยทำงานต่างพากันมีอาการปวดหลังมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะอาการปวดหลังส่วนล่างเนื่องจากการนั่งหรือยืนท่าเดิมนานเกินไป หลายคนจึงมองหาการทำกายภาพบำบัดอาการปวดหลังส่วนล่างเพื่อช่วยบรรเทา แต่ก่อนที่จะไปทำกายภาพนั้น คุณควรทำความเข้าใจก่อนว่า การทำกายภาพบำบัดมีกระบวนการรักษาอาการอย่างไรบ้าง เพราะหากไม่มีความเข้าใจอย่างถูกวิธี อาจจะไม่ช่วยให้อาการปวดหลังหายขาดได้ และจะกลับมารบกวนการใช้ชีวิตได้อีกในอนาคต

กายภาพบำบัดอาการปวดหลังส่วนล่างทำอย่างไรบ้าง

              การรักษาอาการปวดหลังส่วนล่างมีหลายวิธีด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นการทานยา การนวด การฝังเข็ม หรือถ้าหากรุนแรงมากอาจต้องรักษาโดยการผ่าตัด ในขณะที่การทำกายภาพบำบัดอาการปวดหลังส่วนล่างก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยรักษาได้อย่างมีประสิทธิภาพเช่นกัน โดยจะเป็นการบริหารร่างกายด้วยท่าทางต่าง ๆ ที่คุณสามารถทำได้ด้วยตัวเอง แต่ถ้าหากไม่มั่นใจว่าจะทำถูกต้องหรือไม่ ก็สามารถขอคำแนะนำที่ถูกต้องจากนักกายภาพบำบัดได้

              ทั้งนี้สาเหตุที่ทำให้เกิดอาการปวดหลังส่วนล่างก็มีหลายสาเหตุด้วยกัน ดังนั้นหากคุณไปหานักกายภาพบำบัดเพื่อทำกายภาพบำบัด ขั้นตอนแรกที่นักกายภาพต้องทำคือ การสอบถามข้อมูลและซักประวัติอย่างละเอียด จากนั้นจึงค่อยเข้าสู่การตรวจร่างกาย และการเลือกวิธีรักษาที่เหมาะสมกับผู้ป่วยแบบเฉพาะรายบุคคลต่อไป โดยมีการรักษาทั้งการใช้เครื่องมือ การบริหารร่างกาย การดัดและดึงร่างกายโดยนักกายภาพที่มีความเชี่ยวชาญ นอกจากนี้หลังการทำกายภาพบำบัดแล้ว ผู้ป่วยจะได้รับคำแนะนำเพื่อการดูแลตัวเองหลังการรักษาด้วย

หลังทำกายภาพบำบัดอาการปวดหลังส่วนล่าง ควรดูแลตัวเองอย่างไรให้หายถาวร

              การดูแลตัวเองหลังทำกายภาพบำบัดอาการปวดหลังส่วนล่างขึ้นอยู่กับสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการปวด เนื่องจากแต่ละสาเหตุมีวิธีดูแลตัวเองให้เหมาะสมแตกต่างกันไป และเป็นการป้องกันตั้งแต่ต้นทางไม่ให้เกิดอาการปวดหลังอีกในอนาคต

ปวดหลังส่วนล่างเนื่องจากการทำงานที่ไม่เหมาะสม

สาเหตุนี้จะเกิดจากการนั่งทำงานในท่าเดิมเป็นเวลานาน การใช้เครื่องมือหรืออุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ทำให้ต้องอยู่ในท่าเดิม การยกของหนักบ่อย ๆ หรือขาดการบริหารร่างกาย หากปวดหลังด้วยสาเหตุนี้ หลังทำกายภาพบำบัดแล้วควรดูแลตัวเองด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมให้เหมาะสม

ปวดหลังส่วนล่างเนื่องจากกระดูกเสื่อมสภาพ

สาเหตุนี้มักพบในวัยกลางคนไปจนถึงผู้สูงอายุ ตั้งแต่อายุ 45 ปีขึ้นไป มักมีภาวะหมอนรองกระดูกบาดเจ็บร่วมด้วย จึงต้องดูแลตัวเองด้วยการรักษาสุขภาพให้เหมาะสมกับวัยอย่างเคร่งครัด ทานอาหารที่ช่วยเสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรง ไม่ทำงานหนักหรือยกของหนักเกินกำลัง

ปวดหลังส่วนล่างเนื่องจากอาการบาดเจ็บเฉียบพลัน

สาเหตุนี้มักพบในหมู่นักกีฬา หรือผู้ที่ชอบออกกำลังกายอย่างหนัก และเป็นการออกกำลังกายอย่างผิดวิธี จึงทำให้กล้ามเนื้อบาดเจ็บอย่างเฉียบพลันได้ หลังทำกายภาพบำบัดอาการปวดหลังส่วนล่างแล้ว ควรปรับพฤติกรรมการออกกำลังกาย ให้มีความพอดี ทั้งในเชิงคุณภาพและปริมาณ

ปวดหลังส่วนล่างเนื่องจากน้ำหนักของร่างกาย

สาเหตุนี้มักพบในกรณีของคุณแม่ตั้งครรภ์และผู้ที่มีน้ำหนักเกิน จึงควรดูแลสุขภาพร่างกายตัวเองให้มีน้ำหนักเหมาะสมตามค่ามาตรฐาน คุณแม่ตั้งครรภ์ควรได้รับคำแนะนำในการดูแลตนเองอย่างถูกต้อง โดยมีการจัดวางท่าทางให้เหมาะสมในขณะตั้งครรภ์ เพื่อไม่ให้กระดูกสันหลังรับน้ำหนักมากเกินไป

การทำกายภาพบำบัดอาการปวดหลังส่วนล่างมีประสิทธิภาพในการักษาได้จริง แต่อาการจะหายได้ถาวรหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับการปฏิบัติตนหลังการรักษานั่นเอง ดังนั้นจึงควรฟังคำแนะนำของนักกายภาพบำบัดและปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด เพื่อไม่ให้อาการปวดหลังส่วนล่างกลับมารบกวนได้อีก

Related Post

ปรึกษามีบุตรยาก

How to… ปรึกษามีบุตรยาก ฉบับ (ว่าที่) พ่อแม่มือใหม่How to… ปรึกษามีบุตรยาก ฉบับ (ว่าที่) พ่อแม่มือใหม่

            สำหรับใครหลายคน “การมีลูก” ถือเป็นเป้าหมายสูงสุดในการใช้ชีวิตคู่กับคนรัก แต่ต้องยอมรับว่า ไม่ใช่ทุกคนที่จะมีลูกได้ง่ายๆ ด้วยวิธีตามธรรมชาติ เพราะเงื่อนไขด้านสุขภาพแตกต่างกันไป ทางออกที่ดี จึงหนีไม่พ้นการปรึกษามีบุตรยาก กับสถานพยาบาลที่เชี่ยวชาญด้านนี้โดยตรง แต่เชื่อว่าการเตรียมความพร้อมก่อนจะไปปรึกษามีบุตรยาก และการเลือกสถานพยาบาล อาจไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับว่าที่พ่อแม่มือใหม่ ที่ตัวเองหรือคนใกล้ตัว ไม่เคยมีประสบการณ์ด้านนี้มาก่อน             ดังนั้นเพื่อให้ทุกคนที่อยากมีลูก ยิ้มออก วันนี้เราเลยมีคำแนะนำดีๆ มาฝากกัน รับรองว่าเมื่ออ่านจบแล้ว จะทำให้เตรียมตัว และตัดสินใจได้ดีมากยิ่งขึ้น หาข้อมูลเกี่ยวกับวิธีรักษาก่อนไปปรึกษามีบุตรยาก             ปัจจุบัน การรักษาผู้มีบุตรยากมีอยู่หลายวิธี ว่าที่พ่อแม่มือใหม่ควรศึกษาให้เข้าใจก่อนว่า แต่ละวิธีเป็นอย่างไร

วิธีการนอนหลับ

นอนหลับอย่างไรให้ได้สุขภาพที่ดีนอนหลับอย่างไรให้ได้สุขภาพที่ดี

การที่เราจะมีสุขภาพดีได้นั้นเราก็ต้องมีการพักผ่อนหรือการนอนหลับที่ดีด้วยเช่นกัน โดยการนอนหลับนั้นถือเป็นสิ่งที่จําเป็นและสําคัญเป็นอย่างมากสําหรับชีวิต ซึ่งในหนึ่งวันที่มี 24 ชั่วโมงนั้นเราใช้เวลานอนหลับไปแล้ว 6-8 ชั่วโมงต่อวัน เรียกได้ว่าเราใช้เวลาในการนอนหลับถือเป็น 1 ใน 3 ของเวลาชีวิตเราเลยก็ว่าได้ ซึ่งการนอนหลับนั้นเป็นช่วงเวลาสำคัญที่ทำให้อวัยวะต่างๆ ของร่างกายได้พักผ่อน นอกจากนี้ยังเป็นช่วงเวลาที่ร่างกายได้มีการซ่อมแซมส่วนสึกหรอภายในร่างกายอีกด้วย เรียกได้ว่าการนอนหลับนั้นช่วยให้ร่างกายได้พักผ่อนและพัฒนาซ่อมแซมส่วนต่าง ๆ ภายในร่างกายของเรา ดังนั้นในวันนี้เราจะมาบอกถึงวิธีการนอนหลับเพื่อให้ได้สุขภาพที่ดีว่ามีวิธีการนอนอย่างไร วิธีการนอนหลับเพื่อให้ได้สุขภาพที่ดี มาดูกันว่าในการนอนหลับของเราแต่ละครั้งนั้นควรมีวิธีปฏิบัติตนเองอย่างไรบ้างเพื่อให้การนอนหลับของเรานั้นส่งผลต่อสุขภาพของเราให้ดีขึ้นได้ เมื่อเราสามารถนอนหลับได้ดีแล้วเราก็จะมีสุขภาพที่ดีตามมาด้วย เนื่องจากการนอนหลับนั้นเปรียบเหมือนการชาร์จแบตให้กับร่างกาย ดังนั้นควรนอนหลับให้เพียงพอซึ่งสามารถทำได้ตามวิธีที่ได้แนะนำไปด้านบนนี้

เหตุผลที่ควรพาผู้ป่วยไปอยู่ศูนย์ดูแลผู้ป่วยติดเตียงราคาถูกเหตุผลที่ควรพาผู้ป่วยไปอยู่ศูนย์ดูแลผู้ป่วยติดเตียงราคาถูก

 หลายๆ คนอาจจะไม่รู้มาก่อนว่าการดูแลคนป่วยนั้นแท้ที่จริงเป็นเรื่องยากลำบากอย่างยิ่ง อาจจะกล่าวได้ว่าการดูแลคนป่วยได้กัดกินไม่ว่าจะเป็นพลังกายและพลังใจอย่างยิ่ง และส่งผลให้การพาคนป่วยไปอยู่ศูนย์ดูแลผู้ป่วยติดเตียงราคาถูกเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด และเหตุผลที่ควรพาผู้ป่วยไปอยู่ที่ศูนย์ดูแลผู้ป่วยติดเตียง มีอะไรบ้าง มาดูพร้อมๆ กัน  1.มีคนดูแลตลอดเวลา  อาจจะกล่าวได้ว่าการไปอยู่ที่ศูนย์ดูแลผู้ป่วยติดเตียงนั้น จำเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ป่วยแต่ลูกหลานมีงานประจำ หรือมีภาระครอบครัวที่จะต้องดูแล อย่างไรก็ดีหากว่าพาไปอยู่ศูนย์ดูแลก็จะช่วยลดภาระทางด้านนี้ เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับการดูแลตลอดเวลาอีกด้วยนั่นเอง จะดีแค่ไหนหากคุณจะสามารถเลือกได้ด้วยตนเอง พร้อมกันนั้นก็ควรพิจารณาว่าการมีคนดูแลตลอดเวลาจะดีกว่าหรือไม่ อย่างไร  2.ลดความเครียดของผู้ดูแล  สำหรับสิ่งที่จำเป็นมากที่สุดไม่แพ้กันก็คือ ความเครียดของคนที่ดูแล การจะดูแลคนป่วยเป็นเวลานานๆ ส่งผลเสียต่อจิตใจอย่างที่หลายๆ คนคาดไม่ถึง ดังนั้นจะดีแค่ไหนหากว่าได้ลดความเครียดของคนที่ดูแลแบบง่ายๆ ด้วยการพาผู้ป่วยไปอยู่ที่ศูนย์ดูแล เพราะว่าศูนย์ดูแลเองก็มีความพร้อมมากกว่าพอสมควร ส่วนใหญ่แล้วก็จะมีการเตรียมการเป็นอย่างดีถึงการดูแลผู้ป่วย ทำให้การดูแลผู้ป่วยไม่เครียดหรือน่ากังวลอย่างที่คิด ดังนั้นจึงเหมาะสมอย่างมากสำหรับคนที่อยากให้การดูแลผู้ป่วยลดความเครียดลง