สำหรับใครหลายคน “การมีลูก” ถือเป็นเป้าหมายสูงสุดในการใช้ชีวิตคู่กับคนรัก แต่ต้องยอมรับว่า ไม่ใช่ทุกคนที่จะมีลูกได้ง่ายๆ ด้วยวิธีตามธรรมชาติ เพราะเงื่อนไขด้านสุขภาพแตกต่างกันไป
ทางออกที่ดี จึงหนีไม่พ้นการปรึกษามีบุตรยาก กับสถานพยาบาลที่เชี่ยวชาญด้านนี้โดยตรง แต่เชื่อว่าการเตรียมความพร้อมก่อนจะไปปรึกษามีบุตรยาก และการเลือกสถานพยาบาล อาจไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับว่าที่พ่อแม่มือใหม่ ที่ตัวเองหรือคนใกล้ตัว ไม่เคยมีประสบการณ์ด้านนี้มาก่อน
ดังนั้นเพื่อให้ทุกคนที่อยากมีลูก ยิ้มออก วันนี้เราเลยมีคำแนะนำดีๆ มาฝากกัน รับรองว่าเมื่ออ่านจบแล้ว จะทำให้เตรียมตัว และตัดสินใจได้ดีมากยิ่งขึ้น
หาข้อมูลเกี่ยวกับวิธีรักษาก่อนไปปรึกษามีบุตรยาก
ปัจจุบัน การรักษาผู้มีบุตรยากมีอยู่หลายวิธี ว่าที่พ่อแม่มือใหม่ควรศึกษาให้เข้าใจก่อนว่า แต่ละวิธีเป็นอย่างไร มีข้อดี-ข้อเสียอะไรบ้าง ต้องใช้งบประมาณเท่าไหร่ และวิธีการเหล่านั้นเหมาะกับผู้มีปัญหาสุขภาพแบบไหน เพื่อเลือกวิธีที่เหมาะสมกับตัวเอง และเตรียมความพร้อมด้านข้อมูลก่อนไปปรึกษามีบุตรยากกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพราะการเข้ารับคำปรึกษาแบบไม่รู้ข้อมูลอะไรมาก่อน อาจทำให้พูดคุยกับแพทย์ไม่เข้าใจ หรือเกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อน หรืออาจสับสนจนพลาดไปเลือกวิธีการที่ไม่เหมาะสมกับตัวเอง
ตัวอย่างข้อมูลที่ควรรู้
- การทำเด็กหลอดแก้ว IVF เป็นการปฏิสนธิภายนอกร่างกาย ที่ปล่อยให้อสุจิผสมกับเซลล์ไข่ในจานเพาะเลี้ยง และเกิดเป็นตัวอ่อนเองตามธรรมชาติ ก่อนจะนำตัวอ่อนกลับเข้าสู่ร่างกาย เพื่อให้เกิดการตั้งครรภ์
- การทำเด็กหลอดแก้ว ICSI เป็นการปฏิสนธิภายนอกร่างกายเช่นเดียวกัน แต่จะใช้วิธีคัดเลือกอสุจิที่แข็งแรงที่สุด แล้วฉีดเข้าไปในเซลล์ไข่โดยตรง ด้วยกระบวนการทางห้องแล็บ เพื่อให้เกิดการปฏิสนธิเป็นตัวอ่อน ก่อนจะนำตัวอ่อนนั้นกลับเข้าสู่ร่างกาย และเข้าสู่กระบวนการตั้งครรภ์ต่อไป โดยการทำเด็กหลอดแก้วแบบ ICSI จะให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าการทำเด็กหลอดแก้ว IVF แต่ก็แลกมาด้วยค่าใช้จ่ายที่สูงกว่า
ทั้งนี้ ขณะเข้ารับคำปรึกษามีบุตรยาก แพทย์จะสอบถามปัญหาสุขภาพ และประเมินร่างกายของว่าที่พ่อแม่มือใหม่อย่างละเอียด พร้อมแนะนำวิธีรักษาที่เหมาะสม แต่อย่างไรก็ตาม คนที่ต้องตัดสินใจเลือกว่าจะใช้วิธีไหน ก็เป็นตัวผู้เข้ารับการรักษาเอง
เมื่อพร้อมรับคำปรึกษามีบุตรยากควรเตรียมร่างกายให้ดี
แม้ว่าคุณจะยังไม่ผ่านขั้นตอนปรึกษามีบุตรยาก แต่ถ้ามีความคิดที่อยากจะมีลูก ก็ควรเตรียมความพร้อมด้านร่างกายตั้งแต่ก่อนเข้ารับคำปรึกษา เช่น พักผ่อนให้เพียงพอ ทานอาหารที่มีประโยชน์ งดการดื่มแอลกอฮอล์ งดสูบบุหรี่ หลีกเลี่ยงการใช้สารเสพติด เป็นต้น
เพราะอย่างที่บอกไปในตอนต้นว่า ในขั้นตอนให้คำปรึกษา แพทย์จะตรวจสุขภาพว่าที่พ่อแม่มือใหม่ด้วย หากพบว่าร่างกายมีปัญหา หรือไม่พร้อมในด้านใดด้านหนึ่ง แล้วตัวผู้รับคำปรึกษาปกปิดพฤติกรรมการใช้ชีวิต อาจทำให้การวินิจฉัยคลาดเคลื่อน หรือแพทย์มีสิทธิ์ที่จะปฏิเสธการรักษาได้ เพราะมองว่าอาจเกิดความเสี่ยงต่อเด็กในครรภ์
เลือกสถานพยาบาลที่ไว้วางใจ
ขั้นตอนสุดท้าย คือการเลือกสถานพยาบาลที่เชื่อถือได้ และมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านนี้โดยตรง เพราะแพทย์ที่ให้คำปรึกษามีบุตรยาก ควรเป็นคนเดียวกับแพทย์ที่ดูแลคุณจนถึงกระบวนการตั้งครรภ์ เพื่อความต่อเนื่องด้านการรักษา ดังนั้นหากเลือกสถานพยาบาลผิดตั้งแต่แรก และทำให้ต้องตัดสินใจเปลี่ยนแพทย์ผู้รักษาแบบกะทันหัน อาจทำการตั้งครรภ์ไม่สำเร็จ จนต้องกลับมาเริ่มนับหนึ่งใหม่ เสียทั้งเวลา และค่าใช้จ่าย
โดยคุณสามารถพิจารณาได้จากชื่อเสียงของสถานพยาบาล ใบอนุญาตประกอบกิจการ มาตรฐานของเครื่องมือแพทย์ รีวิวจากผู้เคยเข้ารับการรักษาจริง ประวัติการเรียน การทำงาน และประสบการณ์ของแพทย์ในสถานพยาบาลนั้นๆ รวมถึงจำนวนของแพทย์ เพราะหากแพทย์มีน้อยเกินไป อาจให้การรักษาได้ไม่ทั่วถึง
แค่เพียงเท่านี้ การปรึกษามีบุตรยาก ก็เป็นเรื่องง่าย ที่ว่าที่พ่อแม่มือใหม่ทำตามได้แล้ว